ไอเดียแต่งบ้านในมุมมองของนักออกแบบ

สำหรับ ไอเดียแต่งบ้านในมุมมองของนักออกแบบ นั้นอาศัยปัจจัยหลักหลายองค์ประกอบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สถานที่, กลิ่นอายวัฒนธรรม, งบประมาณ, ความเป็นธรรมชาติ, ข้อจำกัดของพื้นที่, Mood & Tone, ความต้องการของผู้อยู่อาศัย ฯลฯ เป็นต้น

แต่ในบทความนี้แอดมินจะมาเขียนถึงมุมมองของนักออกแบบที่ใช้ปัจจัยของ Mood & Tone ในการออกแบบ เพราะเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของสายตา คือ รูปลักษณ์ สีสัน และบรรยากาศของงานตกแต่ง เพราะสิ่งเหล่านี้สร้างอิทธิพลต่อการมองเห็นอย่างชัดเจน Mood & Tone ของบ้านกับการจัดตกแต่งองค์ประกอบให้ลงตัวถือว่าเป็นหน้าเป็นตาแก่บ้านมาก โดยเฉพาะแต่ละสไตล์ คอยดึงดูดเรียกสายตาผู้คนที่ผ่านไปมา ให้เหลียวมองและหลงใหลไปกับบรรยากาศของบ้านที่บ่งบอกความเป็นตัวคุณได้อย่างยอดเยี่ยม

Mood and Tone ไม่ใช่การผสมโทนสีที่ชอบอย่างเดียว แต่สำหรับนักออกแบบแล้วต้องอาศัยหลักการใช้สีด้วย โดยส่วนใหญ่จะใช้เทคนิค60-30-10 หรือจะเป็น สีหลัก 60% สีรอง 30% และอีก 10% จะเป็นโทนสีลูกเล่นหรือที่เรียกว่าไฮไลท์

ยกตัวอย่างการจัด Mood & Tone ที่คู่กับพื้นในสไตล์ต่าง ๆ ที่ได้นำมาฝากดังนี้

 

สไตล์ Japandi

เรียบง่าย สบายตา อบอุ่น สไตล์ มินิมอล น่าหลงใหล Mood board สไตล์นี้จะเป็นสี Earth Tone ซะส่วนใหญ่ ได้แก่ สีเทา สีขาว สีครีม สีน้ำตาล เป็นต้น ส่วนใหญ่เหล่านักออกแบบชอบหยิบสไตล์นี้เนื่องจากเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

 

Contemporary สไตล์

อบอุ่นด้วยธรรมชาติ กับงานตกแต่งที่ลงตัว อย่างมาก เพราะมีความร่วมสมัย ไม่ยึดติดกับกาลเวลา โทนสีในสไตล์จะคล้าย ๆ กับ มินิมอล คือ เป็นสีเบจ อ่อน ๆ สีครีม สีเทา สีขาว สีน้ำตาล เป็นต้น โทนสีเหล่านี้ยังเป็นเอกลักษณ์ตกแต่งที่เข้ากันได้ง่าย ทำให้งานตกแต่งดูสว่าง อบอุ่น โล่งสบายตา เข้ากับของตกแต่งทุกยุคทุกสมัย และอาจจะเพิ่มลูกเล่นด้วยโทนสีเข้มบ้างเพื่อสร้างมิติให้กับงานตกแต่ง

 

Wabi Sabi สไตล์

ปรัชญาของชาวญี่ปุ่นท่านนึงที่มองความสวยงามในความไม่สมบูรณ์แบบ เป็นไอเดียสร้างสรรค์งานตกแต่งบ้านที่ สะท้อนให้เห็นถึงความไม่สมบูรณ์แบบต่าง ๆ เป็นความสวยงามตามธรรมชาติ เข้าใจถึงหลักสัจธรรมตามกาลเวลา โทนสีในสไตล์นี้ จะเป็นสี Earth Tone เช่นกัน สีเทา สีขาว สีเขียว น้ำตาล สีครีม สีดำ หรือ สีธรรมชาติ องค์ประกอบของสีเหล่านี้จะเพิ่มการรับรู้ถึงปัจจุบันและรู้สึกถึงความสวยงามซึ่งไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบเสมอไป

 

Neoclassical สไตล์

องค์ประกอบบ้าน Neoclassical House เป็นงานออกแบบตกแต่งบ้านให้ดูมีศิลปะตามแบบสมัยโรมันให้ดูร่วมสมัยหรือโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น เพิ่มความลงตัวในงานตกแต่ง แต่ยังคง Classic อยู่ โทนสีในสไตล์นี้จะเน้นอบอุ่น อ่อน ๆ สีที ได้แก่ สีขาว สีครีม สีเทา สีเหลือง สีฟ้า สีเขียว และเสริมด้วยเฉดสีอื่น ๆ จะเป็นพวกสีดำ สีเงิน และมีสีดำนิดหน่อย แต่ที่เน้นมากที่สุดคือ สีทอง เพื่อเพิ่มความหรูหรา

 

Green and Copper สไตล์

Green Design คือการออกแบบตกแต่งที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเน้นสีเขียวเป็นโทนหลักให้ดูสบายตาแต่งแฝงไปด้วยความหรูหรามีสไตล์ Copper คือวัสดุตกแต่งที่ประกอบไปด้วยทองแดงหรือสีทองแดง เพื่อเป็นการเพิ่มความหรูหราให้กับบ้าน แต่ถ้าเลือกใช้สีทองเลยก็ดูจะโอเวอร์ไปซักหน่อย เพราะฉะนั้นบรรดาของแต่งบ้านที่เรามักพบเห็นของออกแบบตกแต่ง เป็นสีทองแดง เพื่อช่วยให้บ้านดูหรูหรา ออกแนวคลาสสิค เท่ ๆ เพิ่มมนต์ขลังหน่อย ๆ ให้นักออกแบบใช้เป็นหนึ่งไอเท็มสำหรับงานตกแต่งไปวางประดับบ้านลูกค้าได้

 

Black & Wood สไตล์

หากนึกถึงความดิบ เท่ เข้ม ดาร์ค ๆ ต้องนึกถึงโทนสีดำ เป็นอันดับแรก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ กับ Black สไตล์การตกแต่งลูกเล่นด้วยพื้นลายไม้ (Wood) โทนสีดำ ก็ทำให้เก๋ และคูลขึ้นไม่น้อย ดีไซน์เนอร์เลือกหยิบโทนสีดำมาใช้บ้างตามโอกาส หรือตามคอนเซ็ปต์ของลูกค้า แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้สีดำเพียงอย่างเดียว สีรองส่วนใหญ่ก็จะใช้สีเทาเสริมและสีน้ำตาลเข้ม นอกจากเพิ่มความคูลแล้วยังเพิ่มความรู้สึกสงบและน่าค้นหามากยิ่งขึ้น แต่ข้อเสียของงานตกแต่งโทนสีดำนั้น ไม่เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กหรือคอนโดที่เล็กเพราะยิ่งจะทำให้พื้นที่ดูแคบมากยิ่งขึ้น

 

ได้เห็น Mood board และสไตล์ในแบบที่เหล่านักออกแบบใช้กันแล้ว จะสังเกตว่า นอกจากผนังและของตกแต่ง สิ่งสำคัญที่ทำให้บ้านดูคุมโทนขึ้นมาก็คือส่วนของพื้นนั่นเอง สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลพื้นที่จะใช้ตกแต่งบ้านในสไตล์ที่ชอบอยู่ละก็ลองเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่เพจ Lamett_thailand หรือที่เว็บไซต์ www.lamaison.co.th

 

หรือหากอยากปรึกษาเรื่องงานพื้นโดยตรงแอดไลน์เข้าไปพูดคุยกับแอดมินได้ที่ Line : @lamaisonthailand (มี@)
ประเมินค่าใช้จ่ายหน้างานฟรี! และพร้อมแนะนำสินค้าเราให้เข้ากับสไตล์บ้านที่คุณลูกค้าต้องการ